รีวิวหนัง Elemental (2023) เมืองอลวนธาตุอลเวง
ข้อมูลหนัง
ประเภทหนัง: แอนิเมชัน, ผจญภัย, ตลก, ครอบครัว, แฟนตาซี และโรแมนติก
ผู้กำกับ: Peter Sohn
นักเขียน: John Hoberg, Kat Likkel และ Brenda Hsueh
นักแสดงนำ: Leah Lewis, Mamoudou Athie และ Ronnie Del Carmen
เรื่องย่อ
ดูหนัง 2024 Elemental (2023) เมืองอลวนธาตุอลเวง เรื่องราวแฟนตาซี บอกเล่าถึงธาตุไฟเบอร์นี และซินเดอร์ ลูเมน พวกเขาอพยพจากไฟร์แลนด์ไปยังเมืองธาตุ ซึ่งพวกเขาเผชิญกับการต่อต้านชาวต่างชาติจากธาตุคลาสสิกอื่นๆ หลังจากให้กำเนิดลูกสาว เอมเบอร์ พวกเขาได้ตั้งเปลวไฟสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นตัวแทนของประเพณีของพวกเขา และเริ่มต้นเปิดร้านสะดวกซื้อของตนเองที่เรียกว่า Fireplace
หลายปีต่อมา เบอร์นีตั้งใจจะเกษียณอายุและมอบร้านให้กับเอมเบอร์เมื่อเธอสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของเธอได้ วันหนึ่ง เมื่อเบอร์นีอนุญาตให้เอมเบอร์บริหารร้านด้วยตัวเอง เธอรู้สึกท่วมท้นกับลูกค้าและรีบวิ่งไปที่ห้องใต้ดิน การระเบิดอารมณ์ของเธอทำให้ท่อน้ำแตก ทำให้ห้องใต้ดินเกิดน้ำท่วมและเรียกเวด ริปเปิล ซึ่งเป็นธาตุน้ำและผู้ตรวจสอบเมืองมาพบ ซึ่งสังเกตเห็นท่อประปาที่ชำรุด แม้ว่าเอมเบอร์จะพยายามหยุดเขา แต่เวดก็เดินทางไปที่ศาลากลางและยื่นรายงานผลการค้นพบของเขาอย่างไม่เต็มใจกับนายจ้าง ธาตุอากาศของเขา เกล คิวมูลัส ซึ่งจะปิด Fireplace
เวดพาเอ็มเบอร์ไปที่สนามกีฬาไซโคลน เพื่อโน้มน้าวเกลให้พิจารณาการปิดร้านของพ่อเธอใหม่อีกครั้ง เวดบอกเอมเบอร์ว่าเขากำลังค้นหาจุดรั่วในคลองของเมืองก่อนจะไปลงเอยที่เตาผิง และแนะนำเกลว่าเขาและเอมเบอร์สามารถติดตามแหล่งที่มาของจุดรั่วจากร้านได้ เกลเสนอที่จะให้อภัยการละเมิดตราบใดที่พวกเขาพบและปิดรอยรั่วภายในสิ้นสัปดาห์ ในขณะที่ค้นหาคลอง เอ็มเบอร์และเวดค้นพบรูในเขื่อนที่ทำให้คลื่นที่ไหลบ่าจากเรือท่วมท่อประปาของเมือง พวกเขาจึงปิดรูด้วยกระสอบทราย
ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันในเมืองและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกันและกัน ในขณะเดียวกัน ซินเดอร์สงสัยว่าเอมเบอร์กำลังคบกับใครบางคน กระสอบทรายจึงพังในที่สุด เอมเบอร์จึงหลอมทรายให้เป็นแก้วเพื่อสร้างผนึกที่แข็งแรงยิ่งขึ้น เอ็มเบอร์ไปเยี่ยมครอบครัวของเวดที่อพาร์ตเมนต์หรูหราแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอใช้ไฟของเธอซ่อมเหยือกแก้วที่แตก ทำให้บรู๊ค แม่ของเวดประทับใจและแนะนำให้เธอฝึกงานทำแก้ว ในขณะที่กำลังเล่นเกม ร้องไห้ เวดทำให้เอ็มเบอร์ร้องไห้โดยยอมรับว่าเขามีความรู้สึกต่อเธอ เกลโทรหาเวดและอนุมัติตราประทับแก้วของเอ็มเบอร์ ทำให้เตาผิงไม่ปิดตัวลง เอ็มเบอร์จึงตระหนักได้ว่าเธอไม่ต้องการเข้ายึดร้าน
เบอร์นีประกาศกับเอ็มเบอร์และซินเดอร์ว่าเขาตั้งใจจะเกษียณและมอบเตาผิงให้เอ็มเบอร์ เย็นวันต่อมา เวดพาเอ็มเบอร์ไปที่สถานี Garden Central เพื่อดูดอกไม้ Vivisteria ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่สามารถเติบโตได้ในทุกสภาพแวดล้อม ซึ่งเธอไม่เคยเห็นในวัยเด็ก เมื่อสถานีถูกน้ำท่วมแล้ว เกลก็ให้ฟองอากาศแก่เอ็มเบอร์เพื่อความปลอดภัย ขณะที่เวดผลักเธอลงไปใต้น้ำที่สถานี หลังจากนั้น เอ็มเบอร์และเวดก็รู้ว่าพวกเขาสามารถสัมผัสกันโดยไม่ทำร้ายกันและเต้นรำด้วยกันได้ แต่เอ็มเบอร์จำหน้าที่ของเธอที่มีต่อเตาผิงและอคติของครอบครัวที่มีต่อธาตุน้ำได้ จึงเลิกรากับเวด ในขณะที่เอ็มเบอร์กำลังจะเข้ายึดครองเตาผิงในงานปาร์ตี้ เวดก็ปรากฏตัวขึ้นและประกาศรักเธอ ในขณะเดียวกันก็เปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจว่าเธอเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่อแตก เอ็มเบอร์ปฏิเสธเวด แม้ว่าซินเดอร์จะสัมผัสได้ถึงความรักที่แท้จริง เบอร์นีโกรธและผิดหวัง ปฏิเสธที่จะให้ร้านแก่เอ็มเบอร์และยกเลิกการเกษียณของเขา
ไม่นานหลังจากนั้น ตราประทับใหม่บนเขื่อนก็แตก และเขตไฟก็ถูกน้ำท่วม หลังจากช่วยเปลวไฟสีน้ำเงินได้แล้ว เอ็มเบอร์และเวดก็ติดอยู่ในห้องหนึ่งในเตาผิง ทำให้เวดระเหยไปจากความร้อนที่ปิดล้อมไว้ หลังจากน้ำท่วมลดลง เอ็มเบอร์ซึ่งโศกเศร้าเสียใจสารภาพกับเบอร์นีว่าเธอไม่อยากเปิดเตาผิงและแสดงความรักที่มีต่อเวด เมื่อรู้ว่าเวดได้ควบแน่นอยู่ภายในเพดานหิน เอ็มเบอร์จึงเล่นเกมร้องไห้เพื่อให้เขากลับคืนสู่ร่างปกติ เอ็มเบอร์และเวดโอบกอดกันและจูบกันครั้งแรก หลายเดือนต่อมา เบอร์นีเกษียณอายุแล้ว และตอนนี้ร้าน Fireplace ก็ถูกบริหารโดยเพื่อนๆ ของเขา เอ็มเบอร์และเวดซึ่งตอนนี้เป็นคู่รักกันแล้ว ออกจาก Element City เพื่อให้เอ็มเบอร์เริ่มฝึกงานได้
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์
Pixar ถือเป็นบริษัทที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยสร้างหนังที่ชาญฉลาด มีเสน่ห์ และแปลกใหม่ที่สดใสเพื่อสัมผัสหัวใจและจุดประกายจินตนาการ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าหดหู่ที่สตูดิโอแอนิเมชันที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่กระตุ้นอารมณ์ เช่น Toy Story, Ratatouille, UpและInside Out ซึ่งถือเป็นหนังที่ดีที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลับไม่สามารถรักษามาตรฐานความเป็นเลิศในอดีตเอาไว้ได้
ไม่ใช่แค่ว่า Pixar ในยุคใหม่จะเน้นการนำผลงานที่โด่งดังที่สุดของตนกลับมาอีกครั้งด้วยภาคต่อๆ มามากมาย หรือรายการผลงานต้นฉบับล่าสุดของสตูดิโอ ล้วนแต่มีตัวละครที่แปลงร่างเป็นสัตว์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เปิดเผยสำหรับการแพร่หลายในหนังที่เน้นเรื่องความรู้สึกแตกต่าง ซึ่งตัวละครเอกที่หลากหลายในตอนแรกมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการถ่ายทำโดยมีขนหรือเกล็ดปกคลุมอยู่ นอกจากนี้ เมื่อไม่นานนี้ Pixar ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Disney ตั้งแต่ปี 2549 ยังขาดทักษะในการดำเนินการที่ทำให้สตูดิโอโดดเด่น นั่นคือความสามารถพิเศษในการสร้างโครงเรื่องที่มีแนวคิดล้ำสมัยและนำทางรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว
Elemental (2023) เมืองอลวนธาตุอลเวง เป็นผลงานล่าสุดของ Disney และ Pixar หนังให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งความพยายามของสตูดิโอในการฟื้นคืนเวทมนตร์ดั้งเดิม โดยทำให้การสร้างโลกพังทลายลงเพื่อให้เข้ากับเรื่องราวแบบเดิมๆ ที่ล้มเหลวในความสามารถของแอนิเมเตอร์ที่เกี่ยวข้อง หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องในโลกที่องค์ประกอบทางธรรมชาติ ได้แก่ ดิน ไฟ น้ำ อากาศ อยู่ร่วมกันในมหานครสไตล์นิวยอร์ก ซึ่งแต่ละองค์ประกอบแสดงถึงชนชั้นทางสังคมที่แตกต่างกัน กำกับโดย Peter Sohn จากบทหนังของ John Hoberh, Kat Likkel และ Brenda Hsueh โดยตั้งเป้าไว้สูงด้วยอุปมาอุปไมยหลักดังกล่าว แต่กลับเสียสมดุลทันทีเนื่องจากความคล่องตัวในฐานะสัญลักษณ์ทางเชื้อชาติ ปัญหาที่ซับซ้อนคือจังหวะที่ไม่แน่นอนและการเขียนที่คาดเดาได้เรียบๆ จนชวนให้นึกถึงหนัง Pixar ที่สร้างโดยอัลกอริทึม AI ในบางครั้ง หนังเรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่สมเหตุสมผล แต่กลับรู้สึกว่าได้รับการพัฒนาไม่เพียงพอมากกว่าที่จะเป็นสากล ซึ่งเป็นโอกาสที่พลาดไปอย่างมีสีสัน
ดูหนังฟรี24.com Elemental (2023) เมืองอลวนธาตุอลเวง เป็นหนังที่ถูกนำเสนอในคืนปิดเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 76 ก่อนที่จะเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาในช่วงกลางเดือนมิถุนายน โดยเป็นหนังที่เล่าถึงการขยายตัวของเมืองที่มีประชากรหนาแน่นคล้ายกับหนัง Zootopia ของดิสนีย์ที่เน้นเรื่องการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ซึ่งแนวคิดเรื่องการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติถูกจำกัดให้เป็นเพียงพลวัตของผู้ล่าและเหยื่อ เพื่อสร้างเรื่องราวที่เน้นไปที่การขจัดอคติส่วนบุคคลมากกว่าการเหยียดเชื้อชาติในระบบ ใน Element City ก็มีการลดความซับซ้อนในลักษณะที่ไม่ฉลาดเช่นเดียวกัน และยังมีคนตั้งคำถามถึงอันตรายที่แท้จริงที่องค์ประกอบที่แตกต่างกันเหล่านี้ เช่น สุนัขจิ้งจอกกับกระต่าย ก่อให้เกิดขึ้นซึ่งกันและกัน
การใช้สี รูปแบบ และการเคลื่อนไหวในหนังเรื่องนี้ดูน่าสนใจและรู้สึกว่าถูกจำกัดด้วยการเล่าเรื่องที่ขาดจินตนาการ มีเพียงไม่กี่ฉากที่โดดเด่น เช่น การไปเยี่ยมชมสวนดอกไม้ Vivisteria ใต้น้ำ การอ้อมไปชมแอนิเมชั่นที่วาดด้วยมือซึ่งบอกเล่าเรื่องราวความรักด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายและหมุนวน ซึ่งแยก Elemental (2023) เมืองอลวนธาตุอลเวง ออกจากหนังเรื่องอื่นๆ ของ Pixar ที่ตัวละครเป็นก้อนกลมเล็กๆ ที่เรืองแสงเดินทางไปตามทิวทัศน์เมืองที่เคลื่อนไหวอย่างสมจริง และแม้ว่าหนังจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีฉากที่คาดไม่ถึงเลย
ในทำนองเดียวกัน ไม่มีอะไรใน Elemental (2023) เมืองอลวนธาตุอลเวง ที่จะเรียกคืนจินตนาการด้านสุนทรียศาสตร์อันน่าอัศจรรย์ของหนังคลาสสิกของ Pixar ในยุคปัจจุบัน เช่น Finding Nemo และ Wall-E ยกเว้นดนตรีประกอบอันไพเราะของนักแต่งเพลง Thomas Newman ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีประกอบระดับโลกและนำเสนอภาพที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นของการแลกเปลี่ยนข้ามวัฒนธรรมมากกว่าภาพชุมชนผู้อพยพที่สับสนของหนัง บางทีอาจเหมาะสมกับหนังที่ควรตั้งชื่ออย่างถูกต้องกว่าว่า When Fire Met Water... Elemental (2023) เมืองอลวนธาตุอลเวง กลายเป็นเชื้อเพลิงที่ติดไฟได้เพียงพอในแต่ละนาที แต่จะระเหยไปจากความทรงจำในวินาทีที่คุณออกจากโรงหนัง
#ดูหนัง2024 #Elemental #เมืองอลวนธาตุอลเวง
กลับด้านบน