Movie Review and Storyline: Mamma Mia Here We Go Again (2018)

รีวิวหนัง Mamma Mia: Here We Go Again! (2018) มามา มียา! 2


Movie Review and Storyline: Mamma Mia Here We Go Again (2018)



ข้อมูลหนัง


ประเภทหนัง:  มิวสิคัล, ตลก และโรแมนติก


ผู้กำกับ:  Ol Parker


นักเขียน:  Ol Parker, Richard Curtis และ Catherine Johnson


นักแสดงนำ:  Lily James, Amanda Seyfried และ Meryl Streep





เรื่องย่อ


Mamma Mia: Here We Go Again! (2018) มามา มียา! 2 ย้อนกลับไปในปี 1979 ดอนน่า เชอริแดน เด็กสาวผู้เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นและพลังแห่งชีวิต เพิ่งจบการศึกษาจาก New College ในมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด พร้อมด้วยโรซี่และทันย่า เพื่อนสนิทของเธอ ทั้งสามร่วมกันฉลองวันแห่งความสำเร็จในเพลง When I Kissed the Teacher ที่แสดงถึงความสดใสและความฝันของวัยสาว ดอนน่ามีความฝันที่จะเดินทางไปเกาะคาโลไกรีในกรีซ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอรู้สึกเชื่อมโยงในจินตนาการของเธอ แต่ชีวิตครอบครัวของเธอไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากรูบี้ แม่ของเธอ ผู้เป็นนักร้องชื่อดัง ต้องเดินทางทัวร์ตลอดเวลา ทำให้ความสัมพันธ์ของแม่ลูกค่อนข้างตึงเครียด และรูบี้เองก็ไม่ได้มาร่วมงานรับปริญญาของดอนน่า การไม่ได้รับความอบอุ่นจากแม่ทำให้ดอนน่าตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตอย่างอิสระและเต็มไปด้วยการผจญภัย ดอนน่าเริ่มต้นการเดินทางเพื่อค้นหาโชคชะตาของเธอบนเกาะในฝัน ดูหนังจีน เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ได้ฟรีที่นี่

 

ในยุคปัจจุบัน โซฟี ลูกสาวของดอนน่า กำลังเตรียมตัวเปิดโรงแรมเบลลาดอนน่าขึ้นใหม่บนเกาะคาโลไกรี เพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ของเธอที่เพิ่งเสียชีวิต โซฟีเผชิญความท้าทายหลายอย่าง ทั้งการขาดหายของแฮร์รี่และบิลซึ่งมีภารกิจต่างประเทศ และความห่างเหินกับสกาย สามีของเธอที่ได้รับโอกาสงานในนิวยอร์ก ทำให้เธอรู้สึกว้าเหว่และอ้างว้าง (One of Us) ย้อนกลับไปในอดีต ดอนน่าได้พบกับแฮร์รี่ ไบรท์ หนุ่มชาวปารีสผู้สุภาพอ่อนโยน ทั้งสองใช้เวลาค่ำคืนอันแสนโรแมนติกด้วยกัน (Waterloo) แต่ดอนน่าก็เดินทางต่อไปยังเกาะกรีซก่อนที่ความสัมพันธ์จะพัฒนา เมื่อมาถึงท่าเรือและพลาดเรือที่จะไปคาโลไกรี ดอนน่าได้พบกับบิล แอนเดอร์สัน ชายหนุ่มนักผจญภัยที่เสนอให้เธอติดเรือใบไปด้วย ระหว่างทาง ทั้งสองสนุกสนานและสนิทสนมกัน (Why Did It Have to Be Me) การเดินทางนี้ยังนำไปสู่การช่วยเหลืออเล็กซิโอ ชาวประมงหนุ่ม ที่ต้องการรักษาความสัมพันธ์กับคนรักของเขา

 

กลับมาที่ยุคปัจจุบัน โรซี่และทันย่าเดินทางมาถึงเพื่อช่วยสนับสนุนโซฟี การพาเพื่อนทั้งสองดูโรงแรมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทำให้โซฟีหวนคิดถึงอดีตของแม่เธอ ดอนน่าในช่วงวัยสาวได้ค้นพบฟาร์มร้างที่ต่อมากลายเป็นโรงแรม ทั้งสองช่วงเวลาสะท้อนถึงกันเมื่อพายุรุนแรงเข้ามากระหน่ำเกาะ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน สร้างความวุ่นวาย แต่ยังนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสำคัญในชีวิตของพวกเขา เมื่อแซม คาร์ไมเคิล หนึ่งในคนรักของดอนน่าในอดีต ปรากฏตัวขึ้น เขาให้คำมั่นสัญญากับโซฟีว่าจะสนับสนุนเธออย่างเต็มที่ ในอดีต แซมเคยรักดอนน่าอย่างสุดหัวใจ (The Name of the Game) แต่ความรักนั้นพังทลายเมื่อดอนน่ารู้ว่าแซมหมั้นหมายอยู่แล้ว (Knowing Me, Knowing You) การเลิกราครั้งนั้นเป็นความเสียใจลึกซึ้ง แต่ในยุคปัจจุบัน แซมได้แก้ไขความผิดพลาดด้วยการอยู่เคียงข้างโซฟี

 

เหตุการณ์ดำเนินไปจนถึงการเฉลิมฉลองที่โรงแรม ทั้งแขกเหรื่อและครอบครัวมารวมตัวกัน รวมถึงรูบี้ แม่ของดอนน่า ผู้มาถึงอย่างไม่คาดคิด แต่กลับสร้างบรรยากาศแห่งการปรองดองขึ้น เธอยอมรับข้อผิดพลาดในอดีตและเริ่มสร้างสายสัมพันธ์ใหม่กับโซฟี เซญอร์ เฟอร์นันโด เซียนฟูเอโกส ผู้จัดการโรงแรมและอดีตรักแท้ของรูบี้ ก็กลับมาพบกับเธออีกครั้งในช่วงเวลาสุดท้ายที่งดงาม (Fernando) ท้ายที่สุด โซฟีให้กำเนิดลูกชายและตั้งชื่อว่า ดอนน่า เพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ของเธอ ในงานรับศีลจุ่ม วิญญาณของดอนน่าเฝ้ามองครอบครัวของเธอด้วยความภาคภูมิใจ ความรักและความผูกพันที่ส่งต่อกันได้เติมเต็มเรื่องราวนี้จนกลายเป็นการฉลองชีวิตและความทรงจำที่ไม่มีวันลบเลือน (My Love, My Life และ Super Trouper)



ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์


หากคุณตกหลุมรักความสนุกสนานและเสน่ห์ของ Mamma Mia! ภาคแรกในปี 2008 คุณอาจพบว่า Mamma Mia! Here We Go Again มีทั้งสิ่งที่ให้ความบันเทิงมากกว่า และในขณะเดียวกันก็มีความขาดตกบกพร่องบางอย่างที่ทำให้ไม่ถึงจุดพีคเหมือนต้นฉบับ ภาคต่อนี้เพิ่มทั้งนักแสดง เรื่องราวรอง และความซับซ้อนในความรัก แต่ขณะเดียวกันกลับให้ความรู้สึกที่ ว่างเปล่า กว่าภาคแรกอย่างน่าประหลาด มันไม่ได้เต็มไปด้วยความสนุกสนานอย่างแท้จริง แม้จะพยายามเสริมพลังงานและสีสัน แต่ดูเหมือนว่าพลังเหล่านั้นจะไปไม่ถึงเป้าหมาย จุดเด่นและจุดด้อยในแง่ของพลังและเสน่ห์ Mamma Mia! Here We Go Again ยังคงใช้ดนตรีของวง ABBA เป็นแกนหลัก บนฉากหลังที่งดงามของเกาะกรีก (ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างประณีต) คล้ายกับขนมหวานชิ้นเล็กๆ ที่ดูน่ารับประทาน แต่ในทางปฏิบัติ มันอาจจะหวานจนเกินไปสำหรับบางคน แม้จะมีการแสดงที่ออกแบบให้ดูสนุกสนานและเต็มไปด้วยสีสัน แต่บ่อยครั้งก็รู้สึกเหมือนทุกอย่างถูก ใส่จนล้น หรือ ทำซ้ำซาก จนหมดความตื่นเต้น

 

ดอนน่ากับการกลับมาที่ไม่เต็มตัว หนึ่งในสิ่งที่หลายคนคาดหวังคือการได้เห็น Meryl Streep กลับมารับบทดอนน่า และเติมเต็มความสนุกสนานเหมือนในภาคแรก แต่การปรากฏตัวของเธอกลับน้อยจนน่าผิดหวัง ภาคต่อนี้เริ่มต้นด้วยข่าวเศร้า—ดอนน่าเสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอยังคงเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องราวผ่านความทรงจำและจิตวิญญาณที่ยังคงอยู่รอบตัวลูกสาวของเธอ Amanda Seyfried ในบทโซฟี ต้องก้าวขึ้นมาดำเนินเรื่องแทนแม่ของเธอ ด้วยความพยายามเปิดโรงแรมที่แม่ของเธอฝันไว้ แต่การขาดตัวตนของดอนน่าก็ทำให้เรื่องราวสูญเสียจุดศูนย์กลางที่เคยทรงพลังในภาคแรก

 

สองยุคที่เชื่อมโยงกัน อดีตของดอนน่าและปัจจุบันของโซฟี ผู้กำกับ Ol Parker สลับเล่าเรื่องในสองช่วงเวลา อดีตในปี 1979 ที่เราติดตามดอนน่าตอนยังสาว (รับบทโดย Lily James) และปัจจุบันที่โซฟีกำลังเตรียมเปิดตัวโรงแรมที่เกาะคาโลไกรี Lily James เป็นจุดเด่นของภาพยนตร์ เธอเปี่ยมด้วยเสน่ห์และพลังที่สามารถถ่ายทอดความอิสระและความสนุกสนานในวัยสาวของดอนน่าได้อย่างน่าประทับใจ ความสดใสของเธอช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับฉากในอดีต แต่เรื่องราวของโซฟีในยุคปัจจุบันกลับไม่มีพลังมากพอที่จะจับความสนใจได้เท่า

 

ความรักสามเส้าและการร้องเพลงที่ยังคงเป็นแกนหลัก ภาพยนตร์เล่าถึงการที่ดอนน่าได้พบกับชายสามคน แฮร์รี่, บิล และแซม ที่เข้ามาในชีวิตเธอในช่วงเวลาเดียวกัน และทุกคนต่างทิ้งร่องรอยไว้ในหัวใจของเธอ ฉากที่พวกเขาได้ร้องเพลง ABBA คลาสสิก เช่น Waterloo และ Why Did It Have to Be Me พยายามจะถ่ายทอดอารมณ์แบบย้อนยุค แต่ในหลายช่วงกลับรู้สึกว่าพยายามเกินไป และไม่ได้ทรงพลังเท่าที่ควร เพลงที่ถูกนำมาใช้ซ้ำ และเพลงใหม่ที่ไม่โดดเด่นพอ ในขณะที่ภาคแรกมีเพลงฮิตที่ตราตรึงใจ เช่น Dancing Queen และ The Winner Takes It All ภาคต่อนี้นำเพลงบางส่วนกลับมาเล่นซ้ำ แต่เสน่ห์ของเพลงเหล่านั้นกลับไม่สามารถสร้างความประทับใจได้อีกครั้ง นอกจากนี้ เพลงใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาก็ไม่ได้มีพลังหรือความน่าจดจำเทียบเท่าเพลงจากภาคแรก

 

Cher กับบทบาทคุณยายที่ถูกคาดหวังสูง การปรากฏตัวของ Cher ในฐานะคุณยายของโซฟีสร้างความตื่นเต้นให้กับหลายคน แต่บทบาทของเธอกลับไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการร้องเพลง Fernando ในฉากที่ดูเคร่งขรึมและขาดความมีชีวิตชีวา เธอมีเสน่ห์แบบซูเปอร์สตาร์ แต่กลับถูกควบคุมให้อยู่ในกรอบมากเกินไป สรุป ความบันเทิงที่ต้องมองข้ามข้อบกพร่อง แม้ Mamma Mia! Here We Go Again จะไม่สามารถเทียบชั้นกับภาคแรกได้ในแง่ของพลังและความสนุกสนาน แต่มันก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่มอบความบันเทิงแบบเบาสมอง หากคุณชื่นชอบเพลงของ ABBA หรือหลงใหลในบรรยากาศโรแมนติกของเกาะกรีก คุณอาจยังพบความสุขจากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เพียงแต่ต้องลดความคาดหวังลง และปล่อยตัวไปกับความสนุกแบบไม่คิดมาก ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ mvhd24.com ภาพคมชัด ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมหนังฟรี ตลอด 24 ชม.

 

#MammaMiaHereWeGoAgain  #มามามียา2  #ดูหนังจีน  #mvhd24  #รีวิวหนัง  #MovieReview  #MovieSpoilers


 


กลับด้านบน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *